คาดกำไรดีสุด 2Q64 ได้ผ่านไปแล้ว
  • ครึ่งปีหลังคาดอัตรากำไรแผ่วลง ทั้งนี้บริษัทมีงานในมือ (Backlog) ณ 1H64 ที่รอส่งมอบอยู่อีก 1,977 ล้านบาท แบ่งเป็นงานส่งมอบเครื่องมือโปรตอนรักษามะเร็งของโรงพยาบาลจุฬาฯ 977 ล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะส่งมอบภายในปี 64 ทั้งหมด และงานอื่นๆอีก1,000 ล้านบาท จะส่งมอบระหว่างปี 64-65
   แต่คาดว่างานของโรงพยาบาลจุฬาฯจะมีอัตรากำไรขั้นต้นต่ำกว่าค่าเฉลี่ยราว 5% จึงคาดว่าจากครึ่งปีแรก หรือ 1H64 ที่มีอัตรากำไรขั้นต้นสูงเป็น 16.5% จะลดลงเป็น 11.5% ในครึ่งปีหลัง และรายได้ส่วนใหญ่ใน 2H64 ก็มาจากโรงพยาบาลจุฬาฯ
  • คาดกำไรดีสุด 2Q64 ได้ผ่านไปแล้ว หลังจากงวด 2Q64 บริษัททำกำไรได้สูงสุดเป็นสถิติใหม่ที่ 111 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจาก y-o-y ที่กำไรต่ำเพียง 0.032 ล้านบาท และเพิ่มขึ้น 36% q-o-q ที่มีกำไร 82 ล้านบาท ยังผลให้กำไรครึ่งปีแรก (1H64) สูงเป็น 193 ล้านบาท เพิ่มขึ้นมากเทียบกับ y-o-y ที่เป็นกำไรเพียง 15 ล้านบาท และคิดเป็นสัดส่วนถึง 60% เทียบกับประมาณการกำไรทั้งปี 64 ที่ 323 ล้านบาทแล้ว
   แต่ยังคงประมาณการเดิมไว้ ตามแนวโน้มที่ครึ่งปีหลังคาดอัตรากำไรจะแผ่วลง ตามที่ได้กล่าวไว้ สำหรับกำไรเฉพาะ 2Q64 ก็คิดเป็นสัดส่วนมากสุดของปีที่ 35%
  • คาดสัดส่วนกำไรครึ่งหลังปีนี้จะน้อยกว่าครึ่งปีแรก เป็น 130 ล้านบาท เทียบกับกำไรครึ่งปีแรกสูงเป็น 193 ล้านบาท จึงคาดว่าสัดส่วนกำไรครึ่งหลังปีนี้จะอยู่ที่ราว 40% เทียบกับครึ่งปีแรกที่ 60% ดังนั้นแม้ได้คาดว่ากำไรสุทธิปีนี้ของบริษัทที่ 323 ล้านบาท จะเติบโตก้าวกระโดดถึง 628% เทียบกับ y-o-y ที่มีกำไรเพียง 44 ล้านบาท ก็ถือว่าความน่าสนใจจะลดลงบ้าง
  • คาดว่าธุรกิจของบริษัทย่อยทำโรงพยาบาลต้องรอเวลาเติบโต โรงพยาบาลแคนเซอร์อลิอันซ์ ศรีราชา ที่ถือหุ้นในสัดส่วนร้อยละ 65 นั้น ซึ่งรับรักษาเฉพาะโรคมะเร็ง ไม่รับรักษาโรคอื่นๆ เช่น โควิด-19 จะยังมีฐานกำไรที่ต่ำ นั่นคือในงวด 1Q64 เป็นกำไร 1.9 ล้านบาท แต่ในงวด 2Q64 เป็นขาดทุน 1.1 ล้านบาท
  ล่าสุดราว ก.ค.64 ได้มีบริการใหม่คือ นำกัญชามารักษาทางการแพทย์ เราคาดว่าต้องใช้เวลาอีกราว 4-5 ปี กำไรจึงจะมีนัยสำคัญมากขึ้นสำหรับบริษัท
  • ปรับลดคำแนะนำเป็น เต็มมูลค่า (FV) จากเดิมซื้อ หากหักรายได้ในครึ่งหลังปีนี้ออกราว 1,133 ล้านบาทจาก Backlog จะเหลืออีกราว 844 ล้านบาทที่จะไปรับรู้รายได้ในปี 65 ถือว่ายังไม่มากนัก และกำลังรอผลประมูลอีกราว 700-800 ล้านบาท ขึ้นอยู่กับว่าจากนี้ไปบริษัทจะประมูลงานได้เพิ่มมากน้อยเพียงใด หลังแนะนำซื้อที่ราคา 7.05 บาท หุ้นขึ้นมาแล้ว 59%
   อีกทั้งเดิมคาดว่าบริษัทจะมีอัตราการจ่ายปันผล (Payout Ratio) ที่สูงมากคือ 80% แต่บริษัทให้ช่วงที่จ่ายคือ 40-60% ซึ่งหากใช้ที่ 50% จะมีอัตราผลตอบแทนปันผลที่ 3.6% ไม่ได้ถึงกับสูงมาก สำหรับราคาพื้นฐานประเมินไว้ที่ 10.50 บาท ด้วย P/Eปี 64 ที่ 13.0 เท่า ราคาปิดสูงกว่า 7%

นักวิเคราะห์&กลยุทธ์ : สมบัติ เอกวรรณพัฒนา : sombata@th.dbs.com

เรียบเรียง ประน้อม บุญร่วม
อีเมล์. reporter@efinancethai.com