Investor Relations

Share :

บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) : BIZ แนะนำ“ซื้อ” มูลค่าเหมาะสมที่ 5.60 บาท

What’s new?
• BIZ เป็นผู้นำในอุตสาหกรรมจำหน่ายและซ่อมบำรุงเครื่องมือแพทย์ที่เกี่ยวกับโรคมะเร็ง ที่มีการแข่งขันต่ำ ได้รับการสนับสนุนจากภาครัฐ และยังมีความต้องการสูงตามแนวโน้มผู้ป่วยที่เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง
• Backlong ณ สิ้น 3Q63 สูงถึง 2,345 ล้านบาท เพียงพอรับรู้รายได้ไปจนถึงปี 2565 โดยไม่ต้องประมูลงานใหม่

Our view :
• คาดการณ์กำไรสุทธิปี 2563 ลดลง 21% YoY จากผลกระทบของ COVID-19 ก่อนจะเร่งตัวขึ้น 156% YoY ในปี 2564 จากการส่งมอบงานใหญ่ที่คงค้างมาตั้งแต่ปีก่อน
• ฐานะทางการเงินแข็งแกร่ง และในภาวะปกติสามารถสร้าง ROE ได้สูงกว่า 15% ประเมินมูลค่าที่เหมาะสมโดยอิงกำไรต่อหุ้นเฉลี่ยปี 2564-2565 และ PER 15 เท่าได้ 5.60 บาท

ถึงรอบการเติบโตครั้งใหม่
BIZ ผู้นำในการจำหน่ายอุปกรณ์ทางการแพทย์เพื่อรักษาโรคมะเร็ง

  บริษัท บิสซิเนสอะไลเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ BIZ ดำเนินธุรกิจจำหน่ายและติดตั้งชุดเครื่องมือทางการแพทย์สำหรับรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งด้วยวิธีรังสีรักษา (Radiotherapy) โดยการนำเข้าผลิตภัณฑ์จากบริษัทผู้ผลิตที่มีความเชี่ยวชาญเกี่ยวกับอุปกรณ์และเทคโนโลยีด้านการรักษาโรคมะเร็งระดับชั้นนำของโลก รวมถึงการให้บริการซ่อมบำรุงรักษาชุดเครื่องมือทางการแพทย์ (Maintenance Service)
  โดยมีกลุ่มลูกค้าหลัก ได้แก่ โรงพยาบาลในสังกัดมหาวิทยาลัยแพทย์ โรงพยาบาลในเครือโรงพยาบาลมะเร็งของกรมการแพทย์ภายใต้กระทรวงสาธารณสุข โรงพยาบาลรัฐอื่นๆ หน่วยงานหรือองค์กรด้านสาธารณสุขภายในประเทศ และโรงพยาบาลเอกชน โดย BIZ เป็นผู้จัดจำหน่ายผลิตชุดเครื่องฉายรังสีแต่เพียงผู้เดียวในประเทศไทยของ Varian Medical System Inc. ซึ่งเป็นบริษัทผู้นำระดับโลกที่มีความน่าเชื่อถือ และได้รับการยอมรับจากบุคลากรทางการแพทย์จากทั่วโลก
   สัดส่วนรายได้อ้างอิงจากปี 2562 มาจากการขายเครื่องมือแพทย์ราว 75% ของรายได้รวม, บริการซ่อมบำรุงรักษาเครื่องมือแพทย์ 20% ของรายได้รวม, และรายได้จากการก่อสร้างโครงการจัดตั้งศูนย์รักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งด้วยอนุภาคโปรตอนราว 4% ของรายได้รวม, และรายได้อื่นราว 1% ของรายได้รวม

ภาพรวมอุตสาหกรรมยังมีโอกาสเติบโตอีกมาก
  โอกาสเติบของอุตสาหกรรมเครื่องมือแพทย์ที่เกี่ยวกับโรคมะเร็งยังเปิดกว้างจาก
  (1) ผู้ป่วยโรคมะเร็งมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในอัตราเร่ง จากสภาพแวดล้อมและปัจจัยทางสังคมที่เปลี่ยนแปลง เช่น การขยายตัวของสังคมเมือง การเขาสู่สังคมผู้สูงอายุ และผลกระทบเชิงลบจากพัฒนาการของเทคโนโลยี โดยองค์การอนามัยโลกพบว่า มะเร็งเป็นโรคที่มีความเสี่ยงในการเสียชีวิตมากที่สุด คิดเป็น 15% ของสาเหตุการเสียชีวิตจากโรคภัยไข้เจ็บทั้งหมด
  (2) เครื่องฉายรังสีในประเทศยังไม่เพียงพอ จากข้อมูลของสมาคมรังสีรักษาและมะเร็งวิทยาแห่งประเทศไทยในปี 2562 พบว่ามีเครื่องเร่งอนุภาค (Linac) เพียง 81 เครื่อง เมื่ออิงจำนวนผู้ป่วยที่ราว 1.5 แสนคน และ 1 เครื่องสามารถรองรับผู้ป่วยได้ 942 คน จะต้องมีเครื่องเร่งอนุภาคไม่น้อยกว่า 165 เครื่อง หรือเพิ่มขึ้นกว่าเท่าตัวจากปัจจุบัน
  (3) ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล โดยเมื่อ ก.ย. 63 กระทรวงสาธารณสุขได้อนุมัติให้จัดหาครุภัณฑ์เครื่องฉายรังสีให้กับ 7 โรงพยาบาลที่ยังขาดแคน รวมมูลค่า 878 ล้านบาท เพื่อช่วยลดความเสี่ยงให้ผู้ป่วยมะเร็งในช่วง COVID-19 ระบาด

ประเมินมูลค่าที่เหมาะสมปี 2564 ได้เท่ากับ 5.60 บาท แนะนำ “ซื้อ”
  คาดการณ์กำไรสุทธิปี 2563 ที่ 73 ล้านบาท ลดลง 21% YoY จากการส่งมอบงานโครงการจัดตั้งศูนย์รักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งด้วยอนุภาคโปรตอนให้แก่โรงพยาบาลจุฬาลงกรณ์มูลค่า 963 ล้านบาทที่ล่าช้า และธุรกิจโรงพยาบาลรักษาผู้ป่วยมะเร็ง (บริษัทย่อยเริ่มรับรู้รายได้ตั้งแต่ 1 ต.ค. 62) ที่ยังไม่ถึงจุดคุ้มทุน แต่คาดว่ากำไรสุทธิจะกลับมาโตเด่น 156% YoY เป็น 185 ล้านบาท จากการเร่งส่งมอบงานที่คงค้างมาในปี 2563 ซึ่งมี Backlog ณ สิ้น 3Q63 สูงถึง 2,345 ล้านบาท เพียงพอรองรับรายได้ในปี 2563-2565 โดยไม่ต้องรับงานใหม่
  นอกจากนี้ คาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นจะเร่งตัวขึ้นเป็น 20.8% จาก 19.2% ในปี 2563 จากผลของ Economy of Scale และการแข็งค่าของเงินบาทที่ช่วยลดต้นทุนการนำเข้าอุปกรณ์การแพทย์ ประเมินมูลค่าเหมาะสมปี 2564 โดยอิงกำไรต่อหุ้นเฉลี่ยในปี 2564-2565 ที่ 0.37 บาท และ PER ที่ 15 เท่า จากการ Implied ด้วย Gordon Growth Model (Payout Ratio 70%, Ke 7%, Terminal Growth 2%) ได้เท่ากับ 5.60 บาท แนะนำ “ซื้อ”

Research Analysts:
  Natapon Khamthakrue
  Tel. : +662 009 8075
  E-Mail : natapon.k@yuanta.co.th
  ID : 026636

เรียบเรียง ประน้อม บุญร่วม
อีเมล์. reporter@efinancethai.com

พระนครซอฟต์

Join our newsletter​

Get the lastest news to keep you at the Business Alignment.

Subscription Form