Investor Relations

Share :

บล.โกลเบล็ก : BIZ แนะนำ “ถือ” ราคาเหมาะสม 3.10 บาท

Backlog ทำ New High มีโอกาสเติบโตจากธุรกิจรักษามะเร็ง
  รายงานกำไรปี 61 เท่ากับ 81 ลบ. +96%YoY
  อุตสาหกรรมขายเครื่องฉายรังสียังมีช่องว่างในการเติบโต
  Backlog ทำ New High สู่ 1.8 พันลบ. เพิ่มขึ้นจากต้นปีที่ 1.4 พันลบ.
  คาดการณ์กำไรปี 62 ราว 72 ลบ. -11%YoY
  มีโอกาสเติบโตจากการประมูลงานใหม่ และธุรกิจโรงพยาบาลมะเร็งเฉพาะทาง
  เริ่มต้นด้วยคำแนะนำ “ถือ” ราคาเหมาะสม 3.10 บาท

ประเด็นสำคัญในการลงทุน :
รายงานกำไรปี 61 เท่ากับ 81 ลบ. +96%YoY: BIZ ผู้ประกอบธุรกิจจำหน่ายและติดตั้งชุดเครื่องมือทางการแพทย์สำหรับรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งด้วยวิธีรังสีรักษา (Radiotherapy) และให้บริการหลังการขายในการซ่อมบำรุงอุปกรณ์ โดยมีสัดส่วนรายได้ร้อยละ 80 และ 20 ตามลำดับ โดยปี 61 มีรายได้รวม เท่ากับ 658 ลบ. +7%YoY ตามมูลค่างานส่งมอบที่เพิ่มขึ้น ขณะที่อัตรากำไรขั้นต้น (%GPM) ปรับตัวดีขึ้นมาที่ระดับ 24% จากปี 60 อยู่ที่ระดับ 14% เนื่องจากการบริหารจัดการต้นทุนที่ดีขึ้น ส่งผลให้มีกำไรสุทธิ เท่ากับ 81 ลบ. +96%YoY คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ(%NP) เท่ากับ 12.1% ปรับดีขึ้นจากปี 6.6%ในปี 60

อุตสาหกรรมขายเครื่องฉายรังสียังมีช่องว่างในการเติบโต: ปัจจุบันผู้ป่วยโรคมะเร็งภายในประเทศไทยมีจำนวนถึง 1.3-1.4 แสนรายต่อปี เพิ่มขึ้นเฉลี่ยปีละ 10% ตลอด 5 ปีที่ผ่านมา และมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ขณะที่จำนวนผู้ป่วยที่จำเป็นต้องได้รับการรักษาโดยวิธีการฉายรังสีคิดเป็นสัดส่วน 50% ของจำนวนผู้ป่วยทั้งหมด หรือราว 6.5-7 หมื่นรายต่อปี โดย 1 เครื่องฉายรังสีสามารถรองรับผู้ป่วยได้ 400-600 รายต่อปี ดังนั้นจำนวนเครื่องฉายรังสีทั้งหมดที่ควรมีภายในประเทศไทยจะอยู่ที่ราว 150 เครื่อง อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันมีเครื่องฉายรังสีทั้งหมดเพียง 82 เครื่อง ซึ่งแบ่งเป็น 1) เครื่องเก่าที่ต้องเปลี่ยนใหม่ 20 เครื่อง และ 2) เครื่องที่สามารถใช้งานได้ 62 เครื่อง ดังนั้น ประเทศไทยยังขาดแคลนเครื่องฉายรังสีถึง 103 เครื่อง

Backlog ทำ New High สู่ 1.8 พันลบ. เพิ่มขึ้นจากต้นปีที่ 1.4 พันลบ.: ณ ปลาย ปี 60 บริษัทมีงานในมือ 5 โครงการ มูลค่ารวม 1.4 พันลบ. โดยกว่า 70% เป็นโครงการจัดตั้งศูนย์รักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งด้วยอนุภาคโปรตรอน ของ รพ.จุฬาลงกรณ์ สภากาชาดไทย มูลค่างาน 1.2 พันลบ. แบ่งเป็น 1) งานเครื่องมือรักษาโรคมะเร็ง มูลค่า 967 ลบ.ซึ่งจะรับรู้ในปี 63 และ2) งานก่อสร้างศูนย์ดังกล่าว มูลค่า 233 ลบ.ซึ่งรับรู้รายได้ไปแล้วราว 185 ลบ. ส่วนที่เหลืออีก 48 ลบ. จะรับรู้ภายในปีนี้ อย่างไรก็ดี ในระหว่าง 1Q62 บริษัทได้รับงานเพิ่มอีก 2 โครงการ คือ 1) 3 ม.ค. 62 ลงนามในสัญญาซื้อขายเครื่องเร่งอนุภาค Photon Linear Accelerator และอุปกรณ์ประกอบอื่น ๆ กับกรมการแพทย์ มูลค่างาน 133 ลบ. ระยะเวลาสัญญา 270 วัน และ 2) 25 มี.ค. 62 ลงนามในสัญญาซื้อขายเครื่องเร่งอนุภาคพลังงานสูง พร้อมระบบบังคับลำรังสีชนิดละเอียดสูงและอุปกรณ์ กับมหาวิทยาลัยมหิดล มูลค่างาน 223 ลบ. ระยะเวลาสัญญา 300 วัน ส่งผลให้ปัจจุบันมีงานในมือทั้งหมด 7 โครงการ มูลค่ารวม 1.8 พันลบ.สูงเป็นประวัติการณ์ ทยอยรับรู้จนถึงปี 63

คาดการณ์กำไรปี 62 ราว 72 ลบ. -11%YoY: ฝ่ายวิจัยคาดการณ์รายได้รวมราว 692 ลบ. +5%YoY มีปัจจัยสนับสนุน 3 ประการ 1) มูลค่า Backlog ที่ 1.8 พันลบ. โดยเราคาดว่าจะรับรู้ในปี 62 ราว 480 ลบ. ส่วนที่เหลือจะรับรู้ภายในปี 63 2) รับรู้รายได้จากโครงการก่อสร้างศูนย์มะเร็งของ รพ.จุฬาลงกรณ์ อีกราว 48 ลบ. และ 3) รับรู้รายได้เต็มปีจากธุรกิจตรวจยีนมะเร็งที่เพิ่งเปิดบริการเมื่อ 4Q61 ซึ่งในปี 61 มีรายได้จากธุรกิจดังกล่าวราว 7 แสนบาท อย่างไรก็ตาม เราประเมิน %GPM ที่ระดับราว 19% ต่ำกว่าปีที่ผ่านมาซึ่งอยู่ที่ระดับ 24% เนื่องจากความแตกต่างของลักษณะโครงการที่จะรับรู้ในปีนี้ ส่งผลให้คาดการณ์กำไรสุทธิราว 72 ลบ. หดตัว 11%YoY คิดเป็นอัตรากำไรสุทธิ(%NP) ราว 10.3%

มีโอกาสเติบโตจากการประมูลงานใหม่ และธุรกิจโรงพยาบาลมะเร็งเฉพาะทาง: บริษัทอยู่ระหว่างการเข้าร่วมประมูลงานใหม่จากทั้งภาครัฐและเอกชน มีมูลค่ารวมราว 400-500 ลบ. ซึ่งจะเติมมูลค่างานในมือ (Backlog) จากเดิมที่มีอยู่ราว 1.8 พันลบ. คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในช่วง 2Q62 ด้านธุรกิจโรงพยาบาลมะเร็งเฉพาะทาง จัดตั้งที่ อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี อยู่ในเขตของ EEC ซึ่งจะได้รับสิทธิประโยชน์จาก BOI โดยมีทุนจดทะเบียน 200 ลบ. (ถือในสัดส่วน 65%) ประกอบธุรกิจให้บริการรักษาโรคมะเร็งด้วยเคมีบำบัด (Chemotherapy) และฉายรังสี (Radiotherapy) ปัจจุบันอยู่ในระหว่างการก่อสร้าง คาดว่าจะสามารถเปิดให้บริการในช่วงปลายปีนี้ (ยังไม่รวมในประมาณการ)

เริ่มต้นด้วยคำแนะนำ “ถือ” ราคาเหมาะสม 3.10 บาท : เราประเมินราคาเหมาะสมอิง Prospective PE ที่ 17.2 เท่า ซึ่งเป็นระดับ -1SD ของค่าเฉลี่ย 2 ปีย้อนหลัง และต่ำกว่า PE อุตสาหกรรมซึ่งมีค่าเฉลี่ย 2 ปีย้อนหลังอยู่ที่ระดับ 25.6 เท่า พร้อมกับคาดการณ์กำไรต่อหุ้นปี 62 ราว 0.18 บาทต่อหุ้น ประเมินราคาเหมาะสมได้ราว 3.10 บาทต่อหุ้น ซึ่งมีอัพไซต์ไม่มาก จึงแนะนำ “ถือ” ล่าสุดประกาศจ่ายปันผล 0.16 บาทต่อหุ้น คิดเป็น Yield ที่ 5.4% XD วันที่ 25 เม.ย.62 และจ่ายวันที่ 9 พ.ค.62

Analyst
Wilasinee Boonmasungsong
02 672 5937
wilasinee@globlex.co.th
Assistant analyst
Salakbun Wongakaradeth

เรียบเรียง กานต์ธิดา หวานฉ่ำ
อีเมล์. karntida@efinancethai.com

พระนครซอฟต์

Join our newsletter​

Get the lastest news to keep you at the Business Alignment.

Subscription Form